ญี่ปุ่นมีชื่อเสียงเรื่องรถไฟชินกันเซ็นที่ทั้งไฮเทคและมีความเร็วสูง รวมไปถึงเครือข่ายรถไฟที่กว้างขวางและมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ แต่นอกจากนั้นแล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็ยังขึ้นชื่อเรื่องรถไฟท่องเที่ยวที่ทั้งสนุกและสร้างสรรค์อีกด้วย ในบรรดารถไฟท่องเที่ยวเหล่านี้ รถไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากรถไฟธีมอาหารและรถไฟภัตตาคารซึ่งมีการบริการที่ไม่เหมือนใครและมาพร้อมกับอาหารรสเลิศ!
สำหรับสายชิมที่กำลังมองหาประสบการณ์การนั่งรถไฟแบบใหม่ๆ หรือคนรักรถไฟที่ตามหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แปลกใหม่ ลองมานั่งรถไฟภัตตาคารเหล่านี้กันดูไหม? รถไฟเหล่านี้เสิร์ฟเมนูอาหารชวนน้ำลายสอที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่น ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอาหารมื้ออร่อยและสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ รถไฟหลายขบวนยังวิ่งผ่านเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ทำให้ผู้โดยสารได้ชื่นชมทัศนียภาพสวยเพลินตาจากที่นั่งอันแสนสบาย
ในพื้นที่ญี่ปุ่นตะวันออก JR East ให้บริการรถไฟประเภทดังกล่าว 4 ขบวน ซึ่งแต่ละขบวนต่างมอบประสบการณ์อันน่าจดจำที่ไม่เหมือนใครให้ผู้โดยสาร เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์จองตั๋วใหม่ที่ช่วยให้การจองรถไฟเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น! คุณหิวหรือยัง? เรามารู้จักกับรถไฟ Joyful Train ธีมอาหารทั้ง 4 ขบวนของ JR East กัน
① TOHOKU EMOTION
ประเภทอาหาร: คอร์สอาหารกลางวัน (ขาออก) หรือบุฟเฟ่ต์ของหวาน (ขาเข้า)
TOHOKU EMOTION (東北エモーション Tо̄hoku Emо̄shon) เป็นรถไฟธีมอาหารชั้นเลิศที่รวมเอาองค์ประกอบทั้งความเป็นท้องถิ่นและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกัน นี่คือรถไฟเรือธงในบรรดารถไฟธีมอาหารของ JR East ที่วิ่งไปตามแนวชายฝั่งซันริคุระหว่างสถานี Hachinohe (八戸駅) และสถานี Kuji (久慈駅) รถไฟขบวนนี้เริ่มให้บริการในปี 2013 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่และสนับสนุนความพยายามในการฟื้นฟูท้องที่นี้ เนื่องจากชายฝั่งซันริคุได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์สึนามิและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นตะวันออกเมื่อปี 2011
การเดินทางบน “ทางรถไฟสายภัตตาคารแห่งโทโฮคุ” ขบวนนี้ จะทำให้คุณน้ำลายสอด้วยวัตถุดิบอาหารของโทโฮคุที่ผลิตในท้องถิ่นซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างดีในทุกจาน และจะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจกับบริการระดับห้าดาวจากพนักงานที่แสนทุ่มเท
ในการเดินทางขาออกจากฮาจิโนเฮะไปยังคุจิ ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับอาหารกลางวันแบบคอร์ส 4-5 จาน พร้อมเครื่องดื่มแบบไม่เติมอั้นทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไร้แอลกอฮอล์ ปกติแล้วเมนูอาหารบนรถไฟ TOHOKU EMOTION จะเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 3-6 เดือน โดยมีตั้งแต่อาหารญี่ปุ่น อาหารสไตล์ตะวันตก ไปจนถึงอาหารแบบฟิวชั่น แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทใด อาหารของ TOHOKU EMOTION ก็ล้วนอร่อยและปรุงโดยใช้วัตถุดิบที่ผลิตในท้องถิ่นโทโฮคุทั้งนั้น
ผู้โดยสารที่ชอบขนมหวานจะต้องหลงรักการเดินทางขาเข้าจากคุจิไปยังฮาจิโนะเฮะอย่างแน่นอน เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับบุฟเฟ่ต์ของหวาน ระหว่างการจัดเตรียมบุฟเฟ่ต์นั้น คุณจะได้เริ่มต้นประสบการณ์ชิมของอร่อยด้วยจานขนม Welcome Dessert ซึ่งประกอบด้วยของหวานแสนอร่อยสามอย่าง
บุฟเฟ่ต์ของหวานนี้ได้รับการคัดสรรโดยเชฟทำขนมประจำโรงแรม Hotel Metropolitan Morioka มีขนมหวานให้เลือกหลากหลายตั้งแต่เค้ก ทาร์ต ไปจนถึงเยลลี่ ตลอดจนอาหารคาวขนาดกะทัดรัด เช่น แฮม ชีส และสลัดซีฟู้ด คุณสามารถดื่มเครื่องดื่มได้ไม่จำกัดเช่นเดียวกับคอร์สอาหารกลางวันเลย ในช่วงเวลาปกติ รถไฟตู้ที่ 2 จะเป็นตู้บุฟเฟ่ต์ แต่เนื่องจากการระบาดอย่างต่อเนื่องของไวรัส COVID-19 คอร์สของหวานจึงถูกเปลี่ยนเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารจานเดียว ซึ่งผู้โดยสารสามารถสั่งอาหารกับพนักงานซึ่งจะนำของหวานมาเสิร์ฟให้ถึงที่
แม้กระทั่งการตกแต่งภายในของ TOHOKU EMOTION เองก็เป็นดีไซน์ที่ถอดแบบมาจากภัตตาคาร พร้อมมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดให้เห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลของมหาสมุทรแปซิฟิก สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกสักหน่อย รถไฟก็มีห้องส่วนตัวให้บริการด้วย ซึ่งแต่ละห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ทำให้มองเห็นทิวทัศน์กว้างที่ผ่านไปมา
อีกหนึ่งของดีห้ามพลาดสำหรับสายชิมก็คือครัวแบบเปิดในตู้รถคันที่ 2 ที่เราสามารถชมเชฟเตรียมอาหารได้ การได้เห็นอาหารจานอร่อยที่กำลังถูกปรุงและจัดใส่จานพร้อมสูดกลิ่นที่หอมอบอวลอยู่ในอากาศ… เป็นประสบการณ์ที่ยกระดับความตื่นเต้นที่จะได้ชิมอาหารมากขึ้นอีกระดับหนึ่งว่าไหมล่ะ?
ตามไปสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวในการเดินทางบนรถไฟ TOHOKU EMOTION ได้ในบทความนี้
TOHOKU EMOTION (東北エモーション)
เส้นทาง: Hachinohe ↔️ Kuji บนทางรถไฟสาย Hachinohe
ราคา (ขาเดียว): คอร์สอาหารกลางวันสำหรับผู้ใหญ่ 8,600 เยน, บุฟเฟ่ต์ของหวานสำหรับผู้ใหญ่ 5,100 เยน สำหรับห้องส่วนตัวในตู้รถคันที่ 1 มีค่าบริการเพิ่มเติมห้องละ 3,600 เยน
จำกัดการจอง: ขั้นต่ำสองท่าน / สูงสุดสี่ท่านต่อการจอง
กำหนดเวลาการจอง: 4 วันก่อนออกเดินทาง
หมายเหตุ: TOHOKU EMOTION เป็นรถไฟแบบแพ็คเกจเท่านั้น คุณจะไม่สามารถขึ้นรถไฟขบวนนี้โดยใช้บัตรโดยสารเพียงอย่างเดียวได้
② KAIRI
ประเภทอาหาร: คอร์สอาหารญี่ปุ่น (ขาออก) หรือคอร์สอาหารอิตาเลียน (ขาเข้า)
KAIRI (海里) เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2019 เป็นรถไฟธีมอาหารขบวนใหม่ล่าสุดของ JR East ที่วิ่งเลียบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นระหว่างสถานี Niigata (新潟駅) และสถานี Sakata (酒田駅) ในภูมิภาคโชไน รถไฟเริ่มวิ่งให้บริการเพื่อให้สอดรับกับ Niigata-Shonai Destination Campaign และเพื่อยกย่องของอร่อยท้องถิ่นประจำนีงาตะและโชไนด้วย โดย KAIRI ให้บริการแพ็กเกจรับประทานอาหารในตู้รถคันที่ 4 เพียงตู้เดียว ซึ่งแตกต่างจาก TOHOKU EMOTION ที่เป็นรถไฟภัตตาคารทั้งขบวน
นีงาตะเป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ในการเดินทางขาออกจากสถานี Niigata ผู้โดยสารในตู้รถคันที่ 4 จะได้เพลิดเพลินไปกับชุดอาหารกลางวันสไตล์ญี่ปุ่นชั้นเลิศที่ปรุงโดยเรียวเท (料亭 ร้านอาหารแบบดั้งเดิม) ที่มีชื่อเสียงที่สุดประจำเมืองนีงาตะ เมนูอาหารจะเปลี่ยนไปทุกฤดูกาล โดยเมนูจะหมุนเวียนไปมาระหว่างเรียวเท 3 แห่งที่มีชื่อเสียงของนีงาตะ ได้แก่ Ichishime (一〆) Ikinariya (行形亭) และ Nabedyaya (鍋茶屋) ซึ่งร้านทั้งหมดนี้ตั้งอยู่ในเขตฟุรุมาจิของเมือง
อาหารแต่ละจานล้วนใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลที่หลากหลาย และถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันเพื่อนำเสนอวัตถุดิบที่ดีที่สุดในฤดูกาลนั้นๆ ก่อนนำมาบรรจุใส่กล่องสองชั้นที่สวยงามซึ่งออกแบบโดย Ohashi บริษัทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเก่าแก่ที่ก่อตั้งในเมืองนีงาตะ ข่าวดีสำหรับแฟนๆ ผู้หลงใหลในชุดช้อนส้อมก็คือคุณสามารถซื้อชุดช้อนส้อมขนมขนาดเล็กได้ที่เคาน์เตอร์ในตู้รถคันที่ 3 ด้วย
ในการเดินทางขาเข้าที่มุ่งหน้าสู่นีงาตะ ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารชุดสไตล์อิตาเลียนที่ปรุงโดย Al-ché-cciano (アル・ケッチァーノ Aru Kecchāno) ร้านอาหารในโชไนซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของโชไนในการปรุงอาหาร
มีข่าวดีคือเราสามารถขึ้นตู้รถคันที่ 1 และ 2 ของรถไฟ KAIRI ซึ่งเป็นแบบไม่มีอาหารให้บริการได้ด้วย ซึ่งต่างจาก TOHOKU EMOTION ที่เป็นรถไฟแบบต้องซื้อแพ็คเกจอาหารเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาหารเป็นไฮไลท์ของรถไฟขบวนนี้ คุณคงจะอยากลองชิมบ้างใช่ไหมล่ะ? โชคดีที่ผู้โดยสารสามารถซื้อเบ็นโตะ (弁当 ข้าวกล่อง) KAIRI สุดพิเศษได้จากเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าในตู้รถคันที่ 3 หรือหากคุณกำลังมองหาของที่ระลึกสำหรับการเดินทางบนรถไฟ KAIRI คุณก็สามารถหาซื้อของฝากในที่เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าในตู้รถคันที่ 3 ได้เช่นกัน
แม้ว่าเบ็นโตะขนาดกะทัดรัดเหล่านี้จะไม่ได้หรูหราเหมือนชุดอาหารในตู้รถคันที่ 4 แต่ว่าก็ช่วยให้เราได้ลองชิมรสชาติของอาหารอร่อยๆ ในภูมิภาคนี้ได้ โดยจะมีคาชิมายะ โกเซ็น (2,300 เยน) หรือโชไนเบ็น (2,400 เยน) จำหน่ายซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางในการเดินทาง เบ็นโตะมีจำหน่ายในจำนวนจำกัดแบบใครมาก่อนได้ก่อน ดังนั้นอย่าลืมพุ่งตรงไปที่เคาน์เตอร์ทันทีที่คุณขึ้นรถไฟนะ!
ตามไปสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวในการเดินทางบนรถไฟ KAIRI ได้ใน บทความนี้
KAIRI (海里)
เส้นทาง: Niigata ↔️ Sakata บนทางรถไฟสาย Uetsu Main
ราคา (ขาเดียว): ผู้ใหญ่ 15,000 เยน สำหรับคอร์สอาหารญี่ปุ่น และผู้ใหญ่ 11,500 เยน สำหรับคอร์สอาหารอิตาเลียน
จำกัดการจอง: ขั้นต่ำหนึ่งท่าน / สูงสุดสี่ท่านต่อการจอง
กำหนดเวลาการจอง: 4 วันก่อนออกเดินทาง
หมายเหตุ: ตู้รถคันที่ 4 ของ KAIRI เป็นตู้แบบแพ็คเกจเท่านั้น คุณจะไม่สามารถขึ้นรถไฟตู้นี้ได้ด้วยบัตรรถไฟเพียงอย่างเดียวได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ถือบัตรโดยสารที่ต้องการขึ้นรถไฟแบบไม่มีอาหารบริการนั้นสามารถสำรองที่นั่งในตู้รถคันที่ 1 หรือ 2 ได้ ทั้งนี้ รถไฟขบวนนี้เป็นแบบต้องสำรองที่นั่งทั้งขบวน จึงจำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า
③ FruiTea Fukushima
หมายเหตุ: FruiTea Fukushima จะหยุดดำเนินการถาวรตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566
ประเภทอาหาร: ชุดของหวาน
คุณชื่นชอบการดื่มชาแบบ High Tea พร้อมขนมหวานหรือเปล่า? TOHOKU EMOTION และ KAIRI เป็นรถไฟที่ให้บริหารอาหารเต็มรูปแบบ แต่สำหรับใครที่อยากได้อะไรที่หวานและฟรุตตี้กว่า เราขอแนะนำรถไฟ FruiTea Fukushima (フルーティアふくしま Furūtia Fukushima) ที่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์ด้วยทาร์ตประจำฤดูกาลและขนมอบต่างๆ มากมาย
บนรถไฟคาเฟ่ขบวนนี้ ผู้โดยสารจะได้ลิ้มลองของหวานรสเลิศที่ทำจากผลไม้ที่ดีที่สุดประจำฤดูกาล จังหวัดฟุกุชิมะเป็นแหล่งผลิตผลไม้ของญี่ปุ่นหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นองุ่น ลูกพีช แอปเปิ้ล และลูกแพร์ เป็นต้น โดยลูกพีชของที่นี่มีชื่อเสียงมากที่สุด ด้วยความที่มีผลไม้คุณภาพดี เชฟทำขนมท้องถิ่นจึงสามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ในการครีเอทขนมหวานไอเดียล้ำรสชาติเยี่ยมออกมาได้ ซึ่งขนมบางส่วนก็ถูกเสิร์ฟให้ได้อร่อยกันบนรถไฟ FruiTea Fukushima ขบวนนี้เอง
เมนูของหวานที่ใช้เฉพาะผลไม้ตามฤดูกาลเท่านั้นและจะเปลี่ยนเมนูไปทุกๆ เดือนเพื่อให้ผู้โดยสารได้ลิ้มลองผลไม้ที่ดีที่สุดประจำฤดูกาลนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ของหวานจะใช้สตรอว์เบอร์รี่เป็นส่วนผสมในเดือนมีนาคมและเมษายน ใช้ลูกพีชในเดือนสิงหาคมและกันยายน ใช้ลูกแพร์และองุ่นในเดือนตุลาคม และใช้ลูกพลับในเดือนพฤศจิกายน เป็นต้น ร้านขายขนมในท้องถิ่นจากจังหวัดฟุกุชิมะ เช่น fruits peaks, Cocco tree และ Takino (田季野) ได้สร้างสรรค์เมนูของหวานเพื่อรถไฟ FruiTea Fukushima โดยเฉพาะ และเสิร์ฟพร้อมกับน้ำผลไม้ที่ผลิตในท้องถิ่นและชากาแฟร้อน-เย็นแบบไม่อั้น
คอนเซปต์ของรถไฟธีมอาหารขบวนนี้คือ “รถไฟคาเฟ่ท่องเที่ยว” การตกแต่งภายในรถไฟถูกออกแบบมาให้คล้ายกับคาเฟ่ที่ทันสมัยด้วยที่นั่งโซฟาสีขาวเรียบหรูและโต๊ะสีดำเป็นประกาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่โดยสารรถไฟในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงยังจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาบันไดและพื้นที่ชนบทของฟุกุชิมะในขณะที่รถไฟวิ่งระหว่างสถานี Kо̄riyama (郡山駅) และสถานี Kitakata (喜多方駅) บนทางรถไฟสาย Ban-etsu West ส่วนในฤดูหนาว รถไฟจะวิ่งระหว่างสถานี Kо̄riyama และสถานี Sendai (仙台駅) ไปตามทางรถไฟสาย Tohoku Main
สำหรับใครที่ยังอยากหาอะไรทานเพิ่มเติม บนรถก็มีของว่างทำจากผลไม้อย่างผลไม้แห้ง เยลลี่ผลไม้ และไอศกรีมผลไม้จำหน่ายที่เคาน์เตอร์ในตู้รถคันที่ 2 ของว่างเหล่านี้จะเปลี่ยนตามฤดูกาล ทำให้มีอะไรใหม่ๆ ให้ผู้โดยสารตั้งตารอได้เสมอ นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถหาซื้อของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร อย่างเช่น ช้อนขนมในธีม FruiTea Fukushima แก้วน้ำ กระเป๋าหิ้ว และอื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่
ตามไปสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวในการเดินทางบนรถไฟ FruiTea Fukushima ได้ในบทความนี้
FruiTea Fukushima (フルーティアふくしま)
เส้นทาง:
- ปกติ: Koriyama ↔️ Kitakata บนทางรถไฟสาย Ban-etsu West
- ฤดูหนาว: Koriyama ↔️ Sendai บนทางรถไฟสาย Tohoku Main
ราคา (ขาเดียว): ผู้ใหญ่ 5,900 เยน
จำกัดการจอง: ขั้นต่ำหนึ่งท่าน / สูงสุดสี่ท่านต่อการจอง
กำหนดเวลาการจอง: 3 วันก่อนออกเดินทาง
หมายเหตุ: FruiTea Fukushima เป็นรถไฟแบบแพ็คเกจเท่านั้น คุณจะไม่สามารถขึ้นรถไฟขบวนนี้โดยใช้บัตรโดยสารเพียงอย่างเดียวได้
④ Koshino Shu*Kura
ประเภทอาหาร: อาหารว่างและสาเกหลากหลายประเภท
คุณเป็นแฟนสาเกตัวยงหรือเปล่า? คุณสนุกกับการได้ดื่มไวน์ข้าวหอมกรุ่นสักถ้วยเป็นครั้งคราวหรือไม่? ถ้าคุณตอบว่าใช่ Koshino Shu*Kura (越乃Shu＊Kura) คือรถไฟธีมอาหารที่เหมาะกับคุณ! Koshino Shu*Kura เป็นรถไฟธีมสาเก ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อยกย่องสาเก (酒 ไวน์ข้าว) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำของจังหวัดนีงาตะ รถไฟขบวนนี้จะพาคุณสนุกไปกับเหล้าสาเก การแสดงดนตรี และทัศนียภาพอันงดงามของทะเลญี่ปุ่น
เช่นเดียวกับ KAIRI รถไฟ Koshino Shu*Kura มีตู้พิเศษที่เป็นแบบแพ็คเกจอาหารเพียงตู้เดียว นั่นคือตู้รถคันที่ 1 ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับประทานอาหารว่างที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นของนีงาตะ พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสอง แต่มีให้ถึงสามชนิดทีเดียว ซึ่งรวมถึง Welcome Drink ที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โซดาสาเกสูตรดั้งเดิมเฉพาะ Koshino Shu*Kura 1 ขวด และโอะโจโกะ (おちょこ ถ้วยสาเก) ที่เต็มไปด้วยสาเกท้องถิ่นตามฤดูกาล ผู้ที่ซื้อแพ็คเกจนี้จะได้รับโอะโจโกะ ดีไซน์ดั้งเดิมของ Koshino Shu*Kura เป็นของที่ระลึกด้วย
ไฮไลท์หนึ่งบนรถไฟขบวนนี้คือพื้นที่จัดกิจกรรมในตู้รถคันที่ 2 ซึ่งออกแบบให้คล้ายกับถังสาเกในโรงหมักสาเกนั่นเอง พื้นที่นี้ใช้สำหรับจัดกิจกรรมชิมสาเกและการแสดงดนตรีแจ๊ส ซึ่งทำให้การเดินทางบนรถไฟ Koshino Shu*Kura สนุกสนานยิ่งขึ้น ในแต่ละวัน โรงหมักสาเกเจ้าต่างๆ จากนีงาตะจะนำตัวอย่างสาเกมาให้เราได้ชิมฟรีบนรถไฟ ดังนั้นขอให้คุณจับตาคอยกิจกรรมนี้ให้ดี
นอกจากนี้ตู้รถคันที่ 2 ของรถไฟยังเป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าด้วย ผู้โดยสารที่ต้องการอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเติมสามารถมาซื้อขนมของว่าง สาเกท้องถิ่น และเบียร์หลากหลายประเภทได้ที่นี่ สาเกท้องถิ่นห้าชนิดที่ถูกคัดสรรมาจำหน่ายบนรถไฟจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และคุณไม่ควรพลาดลองชิมชุดตัวอย่างสาเกสามประเภทด้วยประการทั้งปวง อาหารทั้งหมดที่เคาน์เตอร์นี้จะจำหน่ายแบบมาก่อนได้ก่อน ดังนั้นคุณควรรีบมาแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ผิดหวัง
สำหรับใครที่อยากได้อะไรติดมือกลับไปบ้าน ขอแนะนำถ้วยโอะโจโกะ ดีไซน์ดั้งเดิมของ Koshino Shu*Kura หรือหรือสาเกไดกินโจ (大吟醸) สูตรต้นตำรับเฉพาะ Koshino Shu*Kura สักขวด
ตามไปสัมผัสประสบการณ์ส่วนตัวในการเดินทางบนรถไฟ Koshino Shu*Kura ได้ใน บทความนี้
Koshino Shu*Kura (越乃Shu＊Kura)
เส้นทาง:
- Koshino Shu*Kura: Jо̄etsumyо̄kо̄ ↔️ Tо̄kamachi บนทางรถไฟสาย Shin-etsu Main / Joetsu / Iiyama
- Yuzawa Shu*Kura: Jо̄etsumyо̄kо̄ ↔️ Echigo-Yuzawa บนทางรถไฟสาย Shin-etsu Main / Joetsu
- Ryuto Shu*Kura: Jо̄etsumyо̄kо̄ ↔️ Niigata บนทางรถไฟสาย Shin-etsu Main
ราคา (ขาเดียว): ผู้ใหญ่ 8,500 เยนสำหรับ Koshino Shu*Kura และผู้ใหญ่ 8,700 เยนสำหรับ Yuzawa Shu*Kura และ Ryuto Shu*Kura
จำกัดการจอง: ขั้นต่ำหนึ่งท่าน / สูงสุดสี่ท่านต่อการจอง
กำหนดเวลาการจอง: 3 วันก่อนออกเดินทาง
หมายเหตุ: ตู้รถคันที่ 1 ของ Koshino Shu*Kura เป็นตู้รถไฟแบบแพ็คเกจเท่านั้น คุณจะไม่สามารถขึ้นตู้รถคันนี้โดยใช้บัตรโดยสารเพียงอย่างเดียวได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ถือบัตรโดยสารที่ต้องการขึ้นรถไฟแบบไม่มีอาหารให้บริการสามารถสำรองที่นั่งในตู้รถคันที่ 3 ได้ รถไฟขบวนนี้เป็นแบบต้องสำรองที่นั่งทั้งขบวน จึงจำเป็นต้องจองที่นั่งล่วงหน้า
วิธีการจองรถไฟ Joyful Train ธีมอาหาร
ในจำนวนนี้มีรถไฟขบวนไหนที่ถูกใจคุณบ้างหรือเปล่า หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดก็คือ “เราจะจองรถไฟธีมอาหารได้อย่างไร?” ซึ่งข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการนั่งรถไฟ Joyful Train ธีมอาหารของ JR East ก็คือตอนนี้คุณสามารถสำรองที่นั่งผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว!
JR East เพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ในเดือนมีนาคม 2022 แม้ว่าตอนนี้จะยังมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่น แต่เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและจะพร้อมใช้งานในอนาคต เว็บไซต์นี้จะช่วยให้คุณจองแพ็คเกจอาหารของรถไฟ Joyful Train ธีมอาหารทั้ง 4 ขบวนที่เราแนะนำไปในบทความนี้ ได้แก่
คุณสามารถจองที่นั่งได้ในไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ:
- ขั้นตอนที่ 1: เลือกรถไฟที่คุณจะขึ้น
- ขั้นตอนที่ 2: ใส่จำนวนผู้เดินทาง (ผู้ใหญ่/เด็ก/เด็กเล็ก)
- ขั้นตอนที่ 3: เลือกสถานีต้นทาง
- ขั้นตอนที่ 4: เลือกคอร์สอาหาร / จุดหมายปลายทาง
- ขั้นตอนที่ 5: เลือกวันที่เดินทาง
- ขั้นตอนที่ 6: เลือกตู้รถไฟและที่นั่งจากแผนผังที่นั่ง ราคารวมจะปรากฏขึ้น
หลังจากนั้นก็เป็นการยืนยันและชำระเงิน เมื่อก่อนคุณต้องซื้อแพ็คเกจรถไฟรับประทานอาหารด้วยตนเองที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ทำให้การจองเป็นเรื่องยากสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากที่นั่งส่วนใหญ่จะจำหน่ายหมดแล้วเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงญี่ปุ่น แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถเช็คที่นั่งว่างบนรถไฟได้ทันทีและทำการจองจากที่บ้านได้อย่างสะดวกสบายในเพียงไม่กี่คลิ๊กเท่านั้น แม้กระทั่งก่อนเดินทางมาถึงญี่ปุ่นด้วยซ้ำ
วิธีการจองตั๋วรถไฟออนไลน์และการขึ้นรถไฟ | © JR East
ในการขึ้นรถไฟ ผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารยืนยันการจอง (ในสมาร์ทโฟนหรือกระดาษที่พิมพ์ออกมา) ให้เจ้าหน้าที่ที่ประตูตรวจตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟ สามารถดูขั้นตอนได้จากวิดีโอด้านบน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านที่เว็บไซต์สำหรับจองรถไฟ Joyful Train ได้ที่นี่
เครดิตภาพส่วนหัว: JR East, JR East / Carissa Loh, Nguyen Duy Khanh
Translated by ANNGLE
